บทความ มุสตาฟา ฮัดจิ ตำนานจอมเทคนิคโมร็อคโก 16 พ.ค. 2021 [by el loco]
หากจะนึกถึงแข้งแอฟริกันที่เข้ามาสร้างความตื่นตาตื่นใจในพรีเมียร์ลีก ด้วยสไตล์ลากเลี้ยงที่เปี่ยมไปด้วยเทคนิคและความเร็ว แถมยังมีลูกยิงไกลที่สร้างความบันเทิงเริงใจให้กับแฟนบอลในช่วงปลายทศวรรษที่ 90 ชื่อของ มุสตาฟา ฮัดจิ (มุศเฏาะฟา ฮัจญี) ย่อมเป็นหนึ่งในนั้นแน่
ฮัดจิ เกิดและเติบโตมาในหมู่บ้านเล็กๆทางตอนใต้ของประเทศโมร็อกโก แต่ก็เหมือนกับนักเตะอีกหลายคน ครอบครัวของเขาอพยพมาอยู่ในฝรั่งเศส ในตอนที่เขาอายุแค่ 10 ขวบและเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลที่นั่น
ฮัดจิ เซ็นสัญญานักเตะอาชีพครั้งแรกกับ น็องซี่ โดยที่ซีซั่นแรกลงเล่นในทีมเยาวชน ก่อนก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลถัดมา เมื่อปี 1991
หลังทำผลงานได้ดีกับ น็องซี่ ทำให้ ฮัดจิ ถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติโมร็อกโกในปี 1993 ก่อนเข้าร่วมสู้ศึกฟุตบอลโลก 1994 ซึ่งเขาได้ลงสนามทั้ง 3 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ไม่อาจช่วยทีมเข้าสู่รอบน็อคเอาต์ได้
ฮัดจิ ย้ายไป สปอร์ติ้ง ลิสบอนในปี 1996 แต่เล่นได้แค่ซีซั่นเดียว แล้วก็โยกไป เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า ซึ่งทำให้เขาได้มีช่วงเวลามหัศจรรย์เมื่อลงสนามเคียงข้าง เบโต้, ริวัลโด้ และ เมาโร ซิลวา ที่เคยพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์โลก 1994 มันช่วยให้เขายกระดับฝีเท้าขึ้นมาอย่างมาก
ในฟุตบอลปี 1998 ฮัดจิ กลายเป็นตัวความหวังของ "สิงโตแห่งแอตลาส" ซึ่งในรอบแบ่งกลุ่ม เขาก็กลายเป็นนักเตะที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่ง
นัดแรกที่เสมอกับนอร์เวย์ 2-2 (ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ เป็นผู้ตัดสิน) ฮัดจิ วิ่งควบจากครึ่งสนามตามไปเก็บบอลที่เพื่อนวางยาวมาให้ ก่อนลากเข้ากรอบเขตโทษไปสับขาหลบตัวประกบ แล้วซัดเบียดเสาไกลเข้าไป
แม้นัดสองต้องแพ้บราซิล 3-0 แต่ ฮัดจิ ก็กลับมาฉายแสงได้อีกครั้งในเกมที่ถล่มสก็อตแลนด์ 3-0 เมื่อเขาทำทุกอย่างได้อย่างสุดยอดไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงบอลที่คล่องแคล่ว ภาพของชายผมยาวมัดหางม้าที่วิ่งแซงและหลอกกองหลัง "ตาร์ตัน" ครั้งแล้วครั้งเล่า กลายเป็นหนึ่งในไฮไลท์สุดคลาสสิกจากฟุตบอลโลกครั้งนั้น แต่น่าเสียดายที่นอร์เวย์ดันไปชนะบราซิล 2-1 ทำให้โมร็อกต้องยุติเส้นทางไว้เพียงรอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น
แต่แฟนลูกหนังทั่วโลกได้เห็นกับตาแล้วว่าจอมทัพหมายเลข 7 ของ โมร็อกโก นั้นไม่ธรรมดา ก่อนที่ ฮัดจิ จะได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกาประจำปี 1998 ซึ่งกลายเป็นแข้งโมร็อกโกคนแรกและคนเดียวที่ได้ นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อรางวัลมาเป็น ซีเอเอฟ อวอร์ดส์ ในปี 1992
ผลพวงจากฟอร์มอันร้อนแรงของ ฮัดจิ ทำให้เกมวินนิ่ง 3 เวอร์ชั่น 2 ที่ออกหลังจบฟุตบอลโลก 1998 ได้มีการอัพเกรดค่าพลังของเขาจนโหดไม่แพ้ ริวัลโด้ และ ซีเนดีน ซีดาน เพราะด้วยการมี Stamina 8, Speed 8, Kick 8, Pass 8, Curve 7 และ Jump 6 ทำให้ค่าพลังของเขาแทบกลายเป็นหนึ่งในตัวท็อปของภาคที่ได้รับความนิยมจากผู้เล่นอย่างมาก
ในปี 1999 ฮัดจิ สร้างความฮือฮาเมื่อย้ายไป โคเวนทรี ด้วยราคา 6 ล้านยูโร ทั้งที่ได้รับความสนใจจากหลายทีมชั้นนำ ซึ่งเขาเผยว่า กอร์ดอน สตรัคคั่น ตำนานลูกหลังสก็อตติชที่คุมทีมอยู่ในเวลานั้นมีส่วนกับเรื่องนี้
"ผมมีโอกาสย้ายไปทีมใหญ่อย่าง เปแอสเช หรือ มาร์กเซย หรือแม้กระทั่ง ลิเวอร์พูล แต่ผมทำให้หลายคนประหลาดใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ ผมคิดว่านี่คือสโมสรที่ดี ผมเลือกทีมนี้เพราะ กอร์ดอน สตรัคคั่น ซื้อใจผมได้ ผมเจอเขาครั้งแรกและรู้ทันทีว่าผมสามารถทำงานร่วมกับคนๆนี้ได้ดี ผมแปลกใจ ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอกับคนที่สุดยอดอย่างเขา"
ฮัดจิ เข้ามาผนึกกำลังแดนกลางกับ แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ และเพื่อนร่วมชาติอย่าง ยุสเซฟ ชิปโป้ คอยปั้นบอลให้หอกอนาคตไกลอย่าง ร็อบบี้ คีน ช่วยให้ "ช้างกระทืบโรง" อยู่รอดปลอดภัยบนลีกสูงสุดในซีซั่น 1999-2000 ได้อย่างสบาย แต่พอ แม็คอัลลิสเตอร์ กับ คีน ย้ายไป ลิเวอร์พูล และ อินเตอร์ ในฤดูกาลถัดมา แม้มี เคร็ก เบลลามี่, จอห์น ฮาร์ทสัน, เดวิด ธอมป์สัน และ ลี คาร์สลี่ย์ เข้ามาแทน แต่ก็ต้องตกชั้นไป แม้ว่าผลงานส่วนตัว เขายังทำได้ 6 ประตูในลีกเท่ากับในปีแรกก็ตาม
ช่วงเวลา 2 ปีในถิ่นไฮฟิลด์ โร้ด, ฮัดจิ เป็นเหมือนปรากฎการณ์ของ โคเวนทรี เพราะคลาสบอลเขาจัดได้ว่าเหนือจริง ยิ่งได้เล่นกับทีมเล็กแบบนี้ ทำให้เขาได้แสดงศักยภาพออกมาเต็มที่ ไม่ว่าจะ ยิง เลี้ยงหรือจ่าย เรียกว่าอยากเห็นอะไรก็ได้เห็น จนเขากลายเป็น "คัลท์ ฮีโร่" ของสาวกสกายบลูส์ ที่ขนานนามเขาว่า "อาระเบียน ไนท์" (อัศวินจากอาหรับ) แถมหลายคนยังแสดงความนิยมในตัวเขาด้วยการสวมหมวกฏ็อรบูช ซึ่งเป็นหมวกแบบอาหรับทรงสูง คล้ายหมวกกะปิเยาะ เข้ามาเชียร์เขาด้วย
หลังการตกชั้น แม้ว่า ฮัดจิ อยากอยู่ช่วย โคเวนทรี ต่อไป แต่ทีมไม่อาจสู้ค่าเหนื่อยของเขาได้ ทำให้เขาถูกขายไปให้ แอสตัน วิลล่า ที่ยอมหอบเงิน 4 ล้านยูโรบวกกับ จูเลี่ยน โจอาชิม มาแลกตัวเลยทีเดียว
แต่ช่วงเวลาในถิ่นวิลล่า พาร์คไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด ทำให้ ฮัดจิ ต้องอำลาทีมในปี 2004 ก่อนกลายเป็นแข้งพเนจรด้วยการโยกไปเล่นกับ เอสปันญ่อล ต่อด้วย อัลไอน์ ในยูเออี, ซาร์บรู๊กเค่น ในลีกพระรองของเยอรมนี และ โฟล่า อีช ในลักเซมเบิร์ก สุดท้ายเขาตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 2010 และมารับงานผู้ช่วยเทรนเนอร์ทีมชาติโมร็อกโกในปัจจุบัน
เครดิตฟรี บาคาร่า แจกเครดิตฟรี ไม่ต้องฝาก ใหม่ล่าสุดอัพเดต
ตารางคะแนน
2023-2024
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | a7ร์lซนal | 34 | 77 |
2 | llมulชสlตaร์ ciตี� | 33 | 76 |
3 | ลิlวaร์p00l | 34 | 74 |
4 | llอsตัn วิaa7 | 34 | 66 |
5 | สlปaร์ | 32 | 60 |
6 | llมulชสlตaร์ U1นlต | 33 | 53 |
7 | นิวค7สlซิa U1ulต� | 33 | 50 |
ดูทั้งหมด |
2023-2024
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | เลเวอร์คูเซ� | 30 | 80 |
2 | บาเยิร์น มิว | 30 | 66 |
3 | สตุ๊ตการ์ต | 30 | 63 |
4 | RB ไลป์ซิก | 30 | 59 |
5 | ดอร์ทมุนด์ | 30 | 57 |
6 | ไอน์ทรัค แฟร | 30 | 45 |
7 | ไฟร์บวร์ก | 30 | 40 |
ดูทั้งหมด |
2023-2024
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | อินเตอร์ มิล | 33 | 86 |
2 | เอซี มิลาน | 33 | 69 |
3 | ยูเวนตุส | 33 | 64 |
4 | โบโลญญ่า | 33 | 62 |
5 | โรม่า | 33 | 58 |
6 | อตาลันต้า | 32 | 54 |
7 | ลาซิโอ | 33 | 52 |
ดูทั้งหมด |
2023-2024
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | เรอัล มาดริด | 32 | 81 |
2 | บาร์เซโลน่า | 32 | 70 |
3 | คิโรน่า | 32 | 68 |
4 | แอตเลติโก มา | 32 | 61 |
5 | แอธเลติก บิล | 32 | 58 |
6 | เรอัล โซเซีย | 32 | 51 |
7 | เรอัล เบติส | 32 | 48 |
ดูทั้งหมด |
2023-2024
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | ปารีส แซงต์ � | 30 | 69 |
2 | โมนาโก | 30 | 58 |
3 | แบรสต์ | 30 | 53 |
4 | ลีลล์ | 30 | 52 |
5 | นีซ | 30 | 48 |
6 | ล็องส์ | 30 | 46 |
7 | แรนส์ | 30 | 42 |
ดูทั้งหมด |
2023-2024
ทีม | แข่ง | คะแนน | |
---|---|---|---|
1 | บุรีรัมย์ ยู | 25 | 56 |
2 | แบงค็อก ยูไน | 25 | 53 |
3 | การท่าเรือ เ | 25 | 46 |
4 | บีจี ปทุม ยู� | 25 | 42 |
5 | เมืองทอง ยูไ | 25 | 40 |
6 | ราชบุรี มิตร | 25 | 35 |
7 | ลำพูน วอริเอ | 25 | 31 |
ดูทั้งหมด |