บทความ ดูไก่แล้วย้อนมองผี 11 มี.ค. 2020 [by el loco]

สเปอร์ส ภายใต้การนำของ โชเซ่ มูรินโญ่ กำลังถึงคราวเคราะห์ หลังไร้ชัยมา 6 นัดติดทุกรายการ แถมเป็นการแพ้มากถึง 5 เกม

มองผิวเผินปัญหาอาจอยู่แค่การบาดเจ็บพร้อมกันของกองหน้าตัวความหวังอย่าง แฮร์รี่ เคน และ ซน ฮึง-มิน

แต่หากมองให้ลึกลงไปถึงสาเหตุที่แท้จริง มันกลับอยู่ที่การบริหารจัดการขุมกำลังของพวกเขาเองมากกว่า

ในตอนที่ เคน กล้ามเนื้อต้นขาซ้ายฉีกขาดเมื่อต้นเดือนมกราคม ซึ่งต้องพักยาวไปถึงกลางเดือนเมษายนเป็นอย่างน้อย

แทนที่ สเปอร์ส จะดึงหัวหอกรายใหม่เข้ามาเสริมทัพ พวกเขากลับปิดตลาดหน้าหนาวด้วยการคว้ามาแค่ สตีเว่น เบิร์กไวน์ (27 ล้านปอนด์) และ เกดสัน เฟอร์นานเดส (ยืมตัวปีครึ่ง, มูลค่า 4 ล้านปอนด์)

ในรายของ เบิร์กไวน์ ยังไม่เท่าไหร่ เพราะ สเปอร์ส มีปีกให้ใช้ไม่มากอยู่แล้ว เมื่อต้องขยับ ฮึง-มิน ไปค้ำหน้าแทน เคน

แต่ในส่วนของ เกดสัน ที่ถนัดเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางนั่นกลับเป็นดีลที่ไม่จำเป็นเลย เมื่อเทียบกับการหากองหน้า ในเมื่อ สเปอร์ส มีทั้ง เอริค ดายเออร์, โอลิเวอร์ สกิปป์, แฮร์รี่ วิงค์ส, ต็องกี เอ็นดอมเบเล่, โจวานี่ โล เซลโซ่ รวมถึง มุสซ่า ซิสโซโก้ ที่ยังเจ็บอยู่ในขุมกำลังอยู่แล้ว

สุดท้ายพอ ฮึง-มิน กระดูกแขนขวาแตกจนต้องพักยาวทั้่งซีซั่น ความซวยเลยมาเยือน สเปอร์ส ทันที เพราะ เบิร์กไวน์, ลูคัส มูร่า และ เดเล่ อัลลี่ แม้เคยเล่นกองหน้ามาบ้าง แต่ก็ไม่ได้เติบโตมาจากตำแหน่งนี้ เลยทำหน้าที่แทนไม่ได้ ส่วนดาวรุ่งอย่าง ทรอย แพร์ร็อตต์ ก็ไม่พร้อมก้าวมาแบกภาระอย่างกระทันหัน

ในช่วง 6 นัดที่สตาร์ทีมชาติเกาหลีใต้หายไป "ไก่เดือยทอง" โดน ไลป์ซิก เขี่ยตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยสกอร์รวมสองนัด 4-0, กระเด็นตกรอบเอฟเอ คัพ รอบ 5 เมื่อแพ้จุดโทษนอริช 4-3 หลังเสมอในเวลาปกติ 1-1 ส่วนในลีกก็แพ้เชลซี 2-1, พ่ายวูล์ฟส์ 3-2 และเสมอเบิร์นลี่ย์ 1-1 จนตอนนี้อยู่ห่างจากท็อปโฟร์ 7 แต้ม ในขณะที่เหลือ 9 นัด

ดังนั้่นการที่ สเปอร์ส ต้องกระเสือกกระสนในการต่อสู้แต่ละนัดตอนนี้ คงต้องบอกว่าเป็นเพราะพวกเขาพลาดเองจริงๆที่ปล่อยให้มีกองหน้าในทีมแค่ 2 ราย ซึ่งถือว่าน้อยมากไม่ว่ากับทีมไหน

หันมามอง แมนฯยู ในตอนที่พวกเขาปล่อย อเล็กซิส ซานเชซ และ โรเมลู ลูกากู ไปให้ อินเตอร์ เมื่อซัมเมอร์ แล้วไม่ยอมดึงกองหน้าเข้ามาทดแทน ก็ทำให้ถูกวิจารณ์หนักเหมือนกัน

แต่อย่างน้อย "ปีศาจแดง" ก็มี มาร์คัส แรชฟอร์ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ เมสัน กรีนวู้ด ที่เล่นกองหน้าได้ถึง 3 คน ซึ่งพวกเขาล้วนเติบโตมาจากตำแหน่งนี้ แถมยังพิสูจน์ประสิทธิภาพการจบสกอร์มาตั้งแต่ช่วงพรีซีซั่นว่าสามารถเป็นที่พึ่งพาได้

แม้หลายฝ่ายมองว่าผลงานที่ย่ำแย่ในช่วงก่อนหน้าหนาว ส่วนหนึ่งเกิดจากการไม่มีหน้าเป้าธรรมชาติ เพราะทั้ง แรชฟอร์ด, มาร์กซิยาล และ กรีนวู้ด มักไม่ค่อยปักหลักตัวเองในเขตโทษ

แต่เอาเข้าจริงเมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างก็พิสูจน์ชัดว่าปัญหาของ "ปีศาจแดง" อยู่ที่ตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์มากกว่า ซึ่งพอได้ บรูโน่ เฟอร์นานเดส เข้ามาบัญชาเกม แนวรุกก็ยกระดับทั้งแผง

แม้ว่า แรชฟอร์ด โชคร้ายกระดูกหลังร้าวช่วงกลางเดือนมกราคม แต่ "ปีศาจแดง" ก็ไม่ชะล่าใจเหมือน สเปอร์ส สุดท้ายก่อนปิดตลาดหน้าหนาว พวกเขาก็ยืม โอดิออน อิกาโล่ มาทดแทนได้ ก่อนตอบแทนสโมสรด้วยการทำ 3 ประตูจาก 7 เกมทุกรายการ

เห็นแบบนี้แล้ว สาวก "เร้ด อาร์มี่" ก็คงต้องให้เครดิต โอเล่ กุนนาร์ โซลชา รวมถึง เอ็ด วู้ดเวิร์ด และทีมงานด้วยเช่นกัน ที่เรียนรู้และพัฒนาการบริหารขุมกำลังจนทำให้ แมนฯยู มีผู้เล่นพร้อมทำศึกในช่วงที่เหลือของฤดูกาลได้อย่างไม่มีปัญหา